กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งเรื่องสำคัญที่รณรงค์และสื่อสารกับประชาชนคือ เรื่องการใช้หน้ากากอนามัยของประชาชน ซึ่งเป็นหน้ากากแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ไม่ถูกวิธี โดยแนะนำวิธีทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธีและปลอดภัยซึ่งควรแยกทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อ หรือถังขยะเฉพาะที่ปิดอย่างมิดชิด โดยมีวิธีทิ้ง ดังนี้
๑. ถอดหน้ากากอนามัย ออกด้วย การจับที่เชือกคล้องหู
๒. จับที่ขอบแล้วพับครึ่งตามยาว
๓. จับที่ขอบแล้วพับครึ่งอีกครั้ง
๔. พับครึ่งอีกครั้งให้เชือกคล้องหูทบกัน
๕. ใช้เชือกคล้องหูรัดมัดให้แน่น
๖. แยกทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อ หรือถังขยะเฉพาะที่ปิดอย่างมิดชิด
๗. ล้างมือด้วยสบู่หร ือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือหลังทิ้งหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
นอกจากนี้ ทุกคนยังสามารถช่วยลดปริมาณขยะหน้ากากอนามัยให้น้อยลงได้ ด้วยการใช้ให้เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ป่วยแต่หากจะใช้หรือต้องเข้าไปในแหล่งชุมชนที่มีผู้คนหนาแน่นสามารถใช้หน้ากากทางเลือก เช่น หน้ากากผ้าซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดปริมาณขยะหน้ากากอนามัย ที่ใช้แล้วทิ้งได้
สำหรับผ้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับใช้ทำหน้ากากอนามัยคือ ผ้ามัสลิน ซึ่งเป็นใยผ้าที่ผลิตจากฝ้าย ๑๐๐ % เส้นใยผ้ามีเนื้อละเอียด ระบายอากาศดี แห้งเร็ว น้ำหนักเบา ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และผ่านการทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามีประสิทธิภาพในการกันละอองน้ำได้ดีที่สุด เส้นใยผ้าสามารถกันอนุภาคขนาดเล็กได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น นอกจากนั้น ผ้ามัสลิน ยังมีคุณสมบัติสำคัญคือ สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ในระยะเวลาเพียง ๑ - ๕ เดือน แต่ในการใช้ซ้ำหน้ากากผ้าจะต้องมีการซักให้สะอาด และอาจนำไปต้ม ก่อนตากแดดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก่อนนำกลับมาใช้อีก (Reuse)